ศาสนาคริสต์มีรากฐานมาจากศาสนายิว ซึ่งมีโมเสสเป็นศาสดา และเป็นผู้ยืนยันว่า พระเจ้า (พระยะโฮวา)
ได้รับประทานบัญญัติมาให้
โดยศาสนิกชนต้องมีความศรัทธาในพระเยซูสูงสุดในชีวิต และจงรักเพื่อนบ้าน เพื่อนมนุษย์
เหมือนรักตัวเอง
ตามหลักธรรมคำสอนดังต่อไปนี้
หลักบัญญัติ
๑๐ ประการ
๑.จงนมัสการพระเจ้าแต่ผู้เดียว
๒.
อย่าออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมควร
๓.วันพระเจ้าให้ถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
๔.จงนับถือบิดามารดา
๕.อย่าฆ่าคน
๖.อย่าล่วงประเวณี
๗.อย่าลักทรัพย์
๘.อย่าขโมย
๙.อย่าเป็นพยานเท็จต่อเพื่อนบ้านของเจ้า
๑๐.อย่าโลภอยากได้เรือนของเพื่อนบ้าน
อย่าโลภมากอยากได้เมียของเพื่อนบ้าน หรือทาสของเขา โค ลา ของเขา
หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดของเพื่อนบ้านนั้น
หลักตรีเอกานุภาพ
เป็นหลักคำสอนที่ให้ศรัทธาในพระเจ้าพระองค์เดียว แต่มี ๓ สภาวะประกอบด้วย
พระบิดา คือ องค์พระเจ้าผู้สร้างโลกและมนุษย์
พระบุตร คือ
ผู้เกิดมาเพื่อช่วยไถ่บาปให้แก่มนุษย์
พระจิตร คือ
พระวิญญาณอันบริสุทธ์เพื่อมอบความรักและบันดาลให้มนุษย์ประพฤติดี
หลักความรัก
คำสอนเรื่องความรักในศาสนาคริสต์ คือ การปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข
มีความเมตตากรุณา ให้อภัยซึ่งกันและกัน และยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี
หลักคำสอนเรื่องความรักในศาสนาคริสต์
มี ๒ ระดับ คือ
๑.ความรักระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
เปรียบเหมือนความรักระหว่างบิดากับบุตร
๒.ความรักระหว่างมนุษย์กับมนุษย์
พระเยซูสอนให้รักเพื่อนบ้าน (มนุษย์ทั้งโลก) สอนให้รักศัตรู
รู้จักการให้อภัยและเสียสละ
หลักอาณาจักรพระเจ้า
เป็นหลักคำสอนที่เน้นให้มนุษย์สร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในจิตใจ รู้จักการเตรียมตัวรับฟังคำสั่งสอน เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติได้ถูกต้อง ซึ่งอาณาจักรพระเจ้าแบ่งได้เป็น ๒ ส่วน
คือ อาณาจักรบนโลกมนุษย์ ให้มนุษย์กระทำตนให้ดีที่สุด โดยการสวดมนต์
เพื่อเป็นการแสดงความศรัทธาในพระเจ้า
และอาณาจักรสวรรค์
เมื่อมนุษย์ตายไป
วิญญาณจะได้ไปเฝ้าพระเจ้าในสวรรค์มีชีวิตนิรันดร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น